#ภูมิสารสนเทศเพื่อบรรเทาภาวะโลกร้อน
.
รู้หรือไม่ว่าเป็นเวลานานมาแล้วที่ข้อมูลภูมิสารสนเทศโดยเฉพาะข้อมูล GIS ได้ถูกนำมาใช้เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยมลพิษจากการจราจร นับตั้งแต่การกำหนดเส้นทางเพื่อสู่เป้าหมายอย่างปลอดภัยและประหยัดเวลา ช่วยลดการขับที่วกไปวนมาเพื่อลดการเผาผลาญเชื้อเพลง อีกทั้งยังช่วยลดการแออัดบนท้องถนนด้วยแนะนำเส้นทางอื่นไม่ติดขัด รวมไปถึงการกระตุ้นให้คนหันมาปั่นจักรยานหรือเดินกันมากขึ้นโดยใช้ข้อมูล GIS ในแผนที่ออนไลน์บนสมาร์ทโฟนเป็นเครื่องมือช่วยในการนำทางที่สะดวกขึ้นกว่าแต่ก่อน ทั้งหมดนี้นับว่าส่วนของการช่วยลดมลพิษทางอากาศ
.
ตัวอย่างหนึ่งที่ประสบความสำเร็จคือเครือข่ายร้านค้าขนาดใหญ่ในยุโรปที่มีการนำเอาระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) มาเพื่อช่วยบริการจัดการบรรดารถบรรทุกกระจายสินค้า โดยวัตถุประสงค์ก็เพื่อต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยการสร้างระบบติดตามที่นอกจากจะระบุพิกัดตำแหน่งรถบรรทุกบนแผนที่ แต่ยังรวมถึงการนำข้อมูลจากแหล่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยมลพิษ เช่น สภาพจราจร ผลกระทบจากความลาดชันของถนน ความเร็ว การรับน้ำหนัก เป็นต้น เข้ามามีส่วนในการวิเคราะห์เพื่อการวางแผนและการตัดสินใจอย่างชาญฉลาด ซึ่งระบบสามารถช่วยคำนวณไอเสียที่ปล่อยออกมาสำหรับเครื่องยนต์ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นดีเซล์หรือรถยนต์ไฟฟ้าบนการเดินทางในทุกสภาพถนน
.
ด้วยข้อมูลเหล่านี้ทำให้ระบบแผนที่อัจฉริยะสามารถวิเคราะห์สภาพถนนและเส้นทางที่เหมาะสมต่อเครื่องยนต์แต่ละประเภท อีกทั้งให้คำแนะนำการปรับปรุงเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในแต่ละสภาพท้องถนน เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และช่วยลดต้นทุน อีกทั้งนโยบายการช่วยลดการปลดปล่อยมลพิษยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์
.
#การจัดการการจราจรอัจฉริยะ
.
อีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ GIS เพื่อการลดมลพิษในประเทศอังกฤษนั้นคือมอเตอร์เวย์อัจฉริยะ ที่สามารถแนะนำความเร็วที่เหมาะสมตามสภาพคุณภาพอากาศ ณ ปัจจุบัน ซึ่งมีการนำ GIS มาใช้ในการวางแผนสร้างตั้งแต่เริ่มสร้าง ประกอบกับมีการตรวจวัดค่าคุณภาพอากาศบนมอเตอร์เวย์ด้วยเซนเซอร์แบบเรียลไทม์ทำให้ได้ผลลัพท์แสดงผลในรูปแบบของข้อมูล GIS เพื่อเป็นหนึ่งตัวแปรที่ใช้ในการกำหนดความเร็วสูงสุดที่เหมาะสมกับสถานะการณ์ค่ามลพิษในอากาศ ณ ปัจจุบัน
.
ในขณะที่ในเขต West Midlands ประเทศอังกฤษมีการนำ GIS มาใช้เพื่อติดตามและควบคุมความคล่องตัวของสภาพจราจรแบบเรียลไทม์ โดยฉพาะเหตุการณ์ที่กีดขวางการจราจร เช่น รถเสีย ก็จะมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปเคลียร์สถานการณ์ ณ พิกัดที่ได้รับแจ้งจากระบบควบคุมการจราจรที่เบื้องหลังก็คือเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ
.
ด้วยการรวมรวมข้อมูลการขนส่งและจราจรแบบเรียลไทม์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมาณ 20 หน่วยงานพันธมิตรรวมถึงหน่วยงานท้องถิ่น รถไฟ รถราง ผู้ประกอบการรถโดยสาร เครือข่ายรถไฟและทางหลวงแผ่นดิน นำมาวิเคราะห์ร่วมกันและนำเสนอผ่านแดชบอร์ด จะช่วยทำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจที่ตรงกันกับเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้น ก่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ
.
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่เพียงแผนที่บนระบบบริการจัดการการจราจร แต่ทว่าความร่วมมือพัฒนาดังกล่าวทำให้เกิดข้อมูลที่มีค่ามหาศาลที่ช่วยทำให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการขับขี่ของประชาชนในพื้นที่และยังเป็นระบบที่สนับสนุนให้มีการตัดสินใจอย่างรวดเร็วในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น
.
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างของแนวโน้มพัฒนาการของเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศในปัจจุบัน เพื่อช่วยบรรเทาต้นเหตุของภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือก๊าซเรือนกระจกชนิดอื่นๆ จึงเป็นหนทางเลือกหนึ่งที่หลายภาคส่วนกำลังให้ความสนใจ แต่ทว่าปัญหาภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาระดับโลกที่ยังคงต้องอาศัยความร่วมมือกันในทุกระดับทั่วโลกที่ต้องดำเนินการไปพร้อมๆกัน และภูมิสารสนเทศก็จะยังคงเป็นเทคโนโลยีหลักที่สนับสนุนในทุกมิติตั้งแต่สร้างความเข้าใจปัญหาจนนำไปสู่การตัดสินใจแก้ปัญหาที่ถูกจุดอย่างเสมอมาและตลอดไป
.
อ้างอิง geospatialworld.net
This website uses cookies. Our website creates and utilizes cookie data in order for your visit to be smooth, efficient, and private. Please read our cookie policy and GISTDA's personal data protection policy for further detail.
This website uses cookies. Our website creates and utilizes cookie data in order for your visit to be smooth, efficient, and private. Please read our cookie policy and GISTDA's personal data protection policy for further detail.