การประชุม 62nd LSC ระหว่างวันที่ 20 - 31 มีนาคม 2566 ได้มีการหารือเรื่องกฎหมายอวกาศระหว่างประเทศ โดยในปีนี้ได้ให้ความสำคัญกับหารือด้านนโยบาย เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมอวกาศมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งรายละเอียดจากการประชุมเป็นเรื่องที่สามารถนำมาใช้ในการพิจารณาการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติกิจการอวกาศ และร่างแผนแม่บทอวกาศแห่งชาติให้เป็นปัจจุบันทัดเทียมระดับสากล ทั้งนี้ ประเทศไทย และ GISTDA ได้รับการเชิดชูด้าน GI จากการเผยแพร่ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมในพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวในสาธารณรัฐทูร์เคียและซีเรีย โดย Ms. Cigdem Alp อุปทูตทูร์เคีย ได้กล่าวยกย่อง และเดินมากล่าวขอบคุณ นายพีร์ ชูศรี รองผู้อำนวยการ GISTDA ในฐานะผู้แทนประเทศไทยเป็นการส่วนตัว และในที่ประชุม นายต่อวงศ์ อยู่ยอด เจ้าหน้าที่ยุทธศาสตร์ ได้มีการพูดคุยหารือกับประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ได้เชิญชวนภายใต้ความร่วมมือในโครงการสำรวจดวงจันทร์ (Chang'e Project)
ในคราวเดียวกันนี้ GISTDA ได้รับเกียรติให้เข้าพบ นางวิลาวรรณ มังคละธนะกุล เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา โดยได้มีการหารือเรื่องกิจการอวกาศไทย ทั้งนี้ ออท. พร้อมสนับสนุน GISTDA ในทุกประเด็นโดยเฉพาะการเป็นหน่วยงานหลักด้านกิจการอวกาศของประเทศไทย รวมถึงสนใจและเห็นด้วยกับ SPACEPORT และการประกอบดาวเทียมขึ้นเองในประเทศไทย โดยจะมอบหมายนักการทูตไทยที่เกี่ยวข้องให้ศึกษาและหารือแลกเปลี่ยนกับประเทศต่าง ๆ และรวบรวมสรุปรายงานกลับมายังประเทศไทย เพื่อให้กิจการอวกาศของประเทศ ภายใต้การนำของ GISTDA เกิดการขยายตัวในทุกมิติ
นอกจากนี้ นายพีร์ ชูศรี รองผู้อำนวยการ GISTDA ได้หารือกับ Mr. Niklas Hedman รก.ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการอวกาศฯแห่งสหประชาชาติ (UNOOSA) และ Ms. Rosanna Hoffmann เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายประจำ UNOOSA เกี่ยวกับกฎหมายอวกาศที่จะเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจจากกิจการอวกาศในประเทศไทย และได้ข้อสรุปว่า UNOOSA และ GISTDA จะมีการจัด Workshop เพื่อศึกษากฎหมายแนวทางพัฒนากฎหมายอวกาศที่เหมาะสมกับ New Space Economy ของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับอารยประเทศ
